ปลาร้าทรงเครื่อง เมนูอาหารยอดนิยม เป็นเมนูพื้นบ้านทางภาคอีสาน ที่จะให้รสชาติที่โดดเด่น มีความจัดจ้านของเครื่องปรุงต่างๆ ที่ถึงเครื่องสมุนไพรต่างๆ ที่นอกจากความอร่อยของรสชาติแล้ว ยังมีกลิ่นที่หอมที่เหมือนใคร สามารถนำมาใช้รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ กับผักเคียงต่างๆ ก็อร่อยไม่เหมือนใคร โดยที่ในปัจจุบันเราก็มักจะเห็นร้านอาหารหลายๆ ที่นำเอาน้ำปลาร้าทรงเครื่อง มาประยุกต์เข้ากับเมนูอาหารต่างๆ มากมาย ให้มีความหลากหลายในการรับประทาน และสำหรับใครที่อยากจะทำเมนูปลาร้าทรงเครื่องไว้รับประทานเองที่บ้าน วันนี้เราก็มีสูตรวิธีการทำ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ กับขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน รวมไปถึงส่วนผสมที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด สามารถทำตามกันได้กับขั้นตอนต่อไปนี้
เครื่องปรุง และวัตถุดิบในการทำ ปลาร้าทรงเครื่อง
- ปลาร้า 75 กรัม
- ใบมะกรูดซอย 10 กรัม
- หัวกะทิ 330 กรัม
- หางกะทิ 450 กรัม
- เกลือ 7 กรัม
- หน่อไม้ต้ม 250 กรัม
- ปลาดุกไร้ก้าง 250 กรัม
- ตะไคร้ซอย 20 กรัม
- หัวหอมซอย 50 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดง 25 กรัม
- กระชายหั่นซอย 100 กรัม
- น้ำมะกรูด 15 กรัม
- มะเขือเปราะอ่อน 150 กรัม
- ถั่วฝักยาว 150 กรัม
ขั้นตอน และวิธีการทำ ปลาร้าทรงเครื่อง
- ให้นำเอาหางกะทิ กับปลาร้าที่เตรียมเอาไว้มาต้ม และให้เนื้อปลาละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำให้หมด ก่อนที่จะนำมากรองกับผ้าขาว หรือตะแกรงเพื่อเอาก้างปลาออกให้หมด
- น้ำปลาดุกที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาดให้หมด ก่อนที่จะแล่เอาเฉพาะแค่เนื้อออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อเตรียมประกอบในขั้นตอนต่อไป
- นำผักทั้งหมดที่เตรียมไว้มาทำความสะอาด และหั่นให้พอดี โดยการนำมะเขืออ่อนมาผ่าออกให้มีคำที่พอดี แล้วให้นำไปแช่น้ำ รวมไปถึงการนำเอาหน่อไม้ที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นท่อนๆ พอดีคำ และนำถั่วฝักยาวมาตัดเป็นท่อนๆ
- นำเอากระชายที่เตรียมไว้มาขูดเปลือกออก แล้วนำมาซอยเป็นเส้นๆ ตามความยาว ก่อนที่จะนำเอาตะไคร้ หัวหอม และพริกชี้ฟ้าแดงมาซอย และหั่นตามลำดับ
- นำเอาหัวกะทิมาตั้งไฟกลาง ก่อนที่จะใส่หางกะทิที่ต้มผสมกับน้ำปลาร้าเทลงไป รอให้น้ำเดือดค่อยใส่ผักที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นให้ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ลงไป ก่อนที่จะชิมแล้วเติมเครื่องปรุง หรือรสชาติที่ต้องการลงไป เป็นอันเสร็จสิ้นการทำปลาร้าทรงเครื่อง
ปลาร้าทรงเครื่อง เมนูอาหารที่เห็นว่าเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มอบคุณค่าทางโภชนาการที่สูงเป็นอย่างมาก เพราะการรับประทานกับข้าว 1 จานจะให้พลังงานที่สูงถึง 674 กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นพลังงานที่มากกว่า 1 ใน 3 สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว และนอกจากความอร่อยแล้ว ประโยชน์ที่ได้รับทั้งจากส่วนผสม และผักเคียงที่นำมารับประทาน ก็จะช่วยให้การรับประทานอาหารในมื้อนั้นๆ ของคุณมีคุณภาพขึ้นได้อีกด้วย
