การเดินทางไปดูแสงเหนือ-แสงใต้ แสงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลเหนือและขั้วโลกใต้ เป็นจุดหมายปลายทางของหลายๆคน ที่อยากไปสัมผัสแสงออโรราด้วยตัวเอง แสงเหนือ-แสงใต้คืออะไร เกิดจากอะไรและช่วงเวลาไหนที่สามารถเจอแสงเหนือ-แสงใต้ได้ เรามีข้อมูลให้ก่อนตัดสินใจเดินทาง
แสงเหนือ-แสงใต้ หรือ ออโรรา (Aurora) คืออะไร
“แสงเหนือ” หรือ “ออโรรา” (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองสีต่างๆ บนท้องฟ้ายามค่ำคืน เกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลกประมาณ 100-300 กิโลเมตร มักเกิดขึ้นในแถบประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูง ซึ่งก็คือ บริเวณขั้วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็น ซึ่งหากเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ จะเรียกว่า แสงเหนือ (Aurora borealis) และบริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ เรียกว่า แสงใต้ (Aurora australis)
เกิดขึ้นได้อย่างไร
แสงเหนือ-แสงใต้ เกิดจากอนุภาคอิเล็กตรอน โปรตอน หรือไอออนอื่นๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ อนุภาคเหล่านี้จะเคลื่อนที่มากับลมสุริยะและเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เมื่ออนุภาคเคลื่อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศในระดับความสูงประมาณ 80 – 1,000 กิโลเมตร จากพื้นดิน จะชนเข้ากับโมเลกุลของก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ และปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสงที่เรามองเห็นเป็นสีต่างๆ สีของแสงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าอนุภาคชนกับโมเลกุลของก๊าซในช่วงระดับความสูงใด รวมถึงชนิดของก๊าซในชั้นบรรยากาศ โดยก๊าซออกซิเจนจะให้แสงสีเขียวหรือสีแดง ไนโตรเจนให้แสงสีน้ำเงินหรือสีม่วง ส่วนฮีเลียมให้แสงสีฟ้าหรือสีชมพู
พบได้ช่วงใด
เราสามารถพบแสงเหนือ-แสงใต้ ได้ตลอดทั้งปี ดังนั้นหากต้องการไปล่าแสงเหนือ-ใต้ ควรไปในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนเมษายน หรือในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะมีโอกาสเห็นมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีระยะเวลากลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน ทำให้มีเวลาในการออกตามล่าหาเเสงเหนือ แต่หากกลางคืนยาวนานมากเกินไป อย่างในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีเวลาให้ตามล่าแสงเหนือ-แสงใต้ได้ยาวนานขึ้น แต่อาจจะไม่ได้ไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ เพราะจะมืดเร็วมาก ส่วยนช่วงเวลาที่จะพบแสงเหนือ-ใต้ได้มากที่สุด ต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ บรรยากาศมืดสนิท และช่วงเวลาประมาณ 22.00-24.00 น.
พบได้ที่ประเทศใดบ้าง
สามารถดูแสงเหนือ-แสงใต้ได้ที่ประเทศดังต่อไปนี้ สวีเดน, นอร์เวย์, กรีนแลนด์, ไอซ์แลนด์, ฟินแลนด์, รัสเซีย, สหรัฐอเมริกา (รัฐอะแลสกา) และแคนาดา
แสงเหนือ-ใต้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ไม่แปลกที่ใครๆอยากเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อทราบแล้วว่าแสงเหนือ-ใต้จะพบเห็นได้มากในช่วงเดือนไหน สภาพอากาสแบบใด ทำให้การวางแผนจะเดินทางไปล่าแสงเหนือ-ใต้ง่ายขึ้น