การซื้อแมวหรือรับแมวมาเลี้ยงสักตัว ทาสแมวอย่างเราก็ต้องการได้แมวที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรค อยากให้แมวอยู่กับเราไปนานๆ ดังนั้นเราต้องรู้จักสังเกตแมวให้เป็นก่อนจะนำมาเลี้ยง ทาสแมวทั้งหลายก็ไม่อยากเสียน้ำตาที่จะต้องส่งแมวกลับดาวแมว
สังเกตแมวสุขภาพดี
ก่อนตัดสินใจรับเลี้ยงน้องแมว เราควรจะเยี่ยมบ้านน้องแมวเสียก่อน เราจะได้มีเวลาสังเกตน้องแมวในหลายด้าน ทั้งรูปลักษณ์ พฤติกรรม และการเลี้ยงดู สิ่งที่ควรสอบถามหรือต้องสังเกตเมื่อไปเยี่ยมชมบ้าน/ฟาร์ม มีดังนี้
1.สังเกตสภาพความเป็นอยู่
แม่แมว : หากแม่แมวมีสุขภาพที่ไม่ดี ก็มีความเป็นไปได้ที่จะส่งต่อโรคต่างๆ หรือปัญหาทางสุขภาพมาสู่ลูกแมวได้ และลูกแมวควรหย่านมเรียบร้อยแล้วเมื่อถึงเวลาที่เราจะรับมาเลี้ยง
ปริมาณลูกแมวที่เลี้ยงรวมกัน : ยิ่งมีแมวอยู่ด้วยกันจำนวนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ การรักษาความสะอาดก็ทำได้ยาก และหากมีจำนวนมากเกินไปอาจทำให้น้องแมวแต่ละตัวได้รับการดูแลใส่ใจไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังทำให้เกิดความเครียดในกลุ่มแมว อาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดจนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้
ความสะอาดของสภาพแวดล้อม : การที่ลูกแมวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด จะช่วยลดการแพร่เชื้อโรค และแสดงให้เห็นว่าเจ้าของ ผู้เพาะเลี้ยง หรือผู้ดูแลนั้นดูแลสุขภาพน้องแมวไว้ดีแค่ไหน
2.สังเกตที่ตัวลูกแมว
หู : สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกหรือเศษซากใดๆ ติดอยู่
ขน : สะอาด ปราศจากปรสิต ซึ่งอาจสังเกตเห็บหมัดได้จากการที่มีจุดดำๆ บนตัว และที่ผิวหนังไม่ควรดูระคายเคือง และน้องแมวไม่เกาตัวบ่อยจนเกินไป
ตา : สะอาดใส ไม่ขุ่นมัว ไม่มีน้ำตาหรือของเหลวไหลออกมา
จมูก : สะอาด ไม่มีของเหลวไหลออกมา
หาง : พื้นผิวใต้หางต้องสะอาด ซึ่งในน้องแมวที่มีอาการท้องเสียอาจทำให้บริเวณนั้นดูระคายเคืองและแดงได้
ผิวหนัง : ต้องไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด หรือมีบริเวณที่ไม่มีขน
การเคลื่อนไหว : น้องแมวที่มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ควรเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นอิสระ และมั่นคง
พฤติกรรม : ร่าเริง สดใส หากน้องแมวมีอาการเฉื่อยชาหรือซึมนั้นไม่ใช่สัญญาณของสุขภาพที่ดี
เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโต อายุขัยของน้องแมว และค่าใช้จ่ายที่ตามมาหากน้องแมวต้องเข้ารับการรักษา ทาสแมวอย่างเราคงอยากให้น้องแมวอยู่กับเราไปนานๆ ลองนำทริคที่แนะนำไปใช้สังเกตน้องแมวก่อนตัดสินใจรับมาเลี้ยงดูนะคะ