ภาวะจุกท้อง: สาเหตุ อาการ และวิธีแก้อาการจุกท้องที่ควรรู้!

5

ภาวะจุกท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสร้างความไม่สบายตัวและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ สำหรับอาการนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่พฤติกรรมการกิน ไปจนถึงปัญหาสุขภาพเรื้อรัง มาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีแก้อาการจุกท้อง เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับอาการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แก้อาการจุกท้อง

สาเหตุของภาวะจุกท้อง

ภาวะจุกท้องเกิดจากหลายสาเหตุ แต่นอกจากวิธีแก้อาการจุกท้องแล้ว เราอาจจะต้องมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดการจุกท้องกันก่อน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ 

  • พฤติกรรมการกิน 
    • การกินเร็วเกินไป: การรีบกินอาหารทำให้เรากลืนอากาศเข้าไปพร้อมกับอาหาร ซึ่งสะสมในกระเพาะอาหารและทำให้เกิดอาการจุกท้อง
    • การกินอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊ส: อาหารบางชนิด เช่น ถั่ว กะหล่ำปลี บรอกโคลี และเครื่องดื่มอัดลม ทำให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร
    • การกินอาหารมันและอาหารทอด: อาหารเหล่านี้ย่อยยากและใช้เวลานาน ทำให้เกิดอาการท้องอืดและจุกท้อง
    • การแพ้อาหาร: ในบางคน การแพ้อาหารบางชนิด เช่น แลคโตสในนม ทำให้เกิดอาการจุกท้องและท้องเสีย
  • ปัญหาสุขภาพ 
    • โรคกระเพาะอาหาร: การอักเสบหรือแผลในกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการปวดท้อง จุกเสียด และท้องอืด
    • โรคลำไส้แปรปรวน (IBS): โรคนี้ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสีย
    • การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร: การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และจุกท้อง
    • โรคกรดไหลย้อน: กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการจุกเสียดบริเวณหน้าอกและท้อง
    • โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี: เช่น นิ่วในถุงน้ำดี ที่จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นท้อง
  • สาเหตุอื่นๆ 
    • ความเครียด: ความเครียดทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ และนำไปสู่อาการจุกท้อง
    • การตั้งครรภ์: ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์ทำให้การย่อยอาหารช้าลง และทำให้เกิดอาการจุกท้อง
    • การทานยาบางชนิด: ยาบางชนิดส่งผลข้างเคียงให้เกิดอาการท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย

วิธีแก้อาการจุกท้อง

เมื่อเกิดอาการจุกท้องขึ้นมา หากยังไม่มีอาการรุนแรง สามารถใช้วิธีแก้อาการจุกท้องเหล่านี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ 

  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน 
    • กินอาหารช้าๆ และเคี้ยวให้ละเอียด
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊สและอาหารมัน
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อแทนการกินมื้อใหญ่
  • การใช้ยา 
    • ยาลดกรด: ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการจุกเสียด
    • ยาแก้ท้องอืด: ช่วยลดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร
    • ยาช่วยย่อยอาหาร: จะช่วยให้อาการจุกเสียดลดลง
  • การใช้สมุนไพร 
    • ขิง: มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืดและคลื่นไส้
    • เปปเปอร์มินต์: ช่วยคลายกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารและลดอาการจุกเสียด
    • ใบกะเพรา: ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • การออกกำลังกาย 
    • การเดินเบาๆ หลังอาหารช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร
    • การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  • การจัดการความเครียด 
    • การฝึกหายใจลึกๆ และการทำสมาธิช่วยลดความเครียด
    • การออกกำลังกายและการพักผ่อนให้เพียงพอช่วยลดความเครียด

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์

โดยทั่วไป อาการจุกท้องมักหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ 

  • อาการจุกท้องรุนแรงและต่อเนื่อง
  • อาการปวดท้องรุนแรง
  • อาเจียนเป็นเลือด
  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
  • น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ
  • มีไข้ร่วมด้วย

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีแก้อาการจุกท้องจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอาการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการจุกท้องที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมก็จะดีที่สุด